Loading ...

28มีนาคม 2555

ถึง คุณวิทวัส

                ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้ชมรายการตีสิบ ช่วง สนทนา ที่ออกอากาศไปเมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม 2555 ภาพรวมของช่วงสนทนาเป็นเรื่องราววิถีชีวิตทางเพศของผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายหนึ่ง ซึ่งในฐานะคนทำงานประเด็นเอชไอวี/เอดส์ ดิฉันมีความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อการนำเสนอของรายการรวมถึงวิธีการตั้งคำถาม คำพูดต่างๆ ที่ใช้ในการสนทนาของคุณวิทวัส

                ความไม่สบายใจประการแรกคือ ความผิดเพี้ยนของข้อมูลเรื่องเอชไอวี/เอดส์ ทั้งในส่วนของแขกรับเชิญและคุณวิทวัสเอง โดยเฉพาะเรื่องยาต้านไวรัสที่บอกว่าเป็นยายืดอายุหรือชะลอความตาย ข้อเท็จจริงคือ ยาต้านไวรัสเป็นยาที่ใช้ควบคุมจำนวนเชื้อเอชไอวีในร่างกายไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้ภูมิคุ้มกัน (CD4) ไม่ถูกทำลาย เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันก็จะไม่เจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น โรคเชื้อราเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เหมือนที่แขกรับเชิญเคยเผชิญกับโรคนี้มาก่อน นั่นก็เพราะว่าระดับ CD4ของเขาต่ำมากนั่นเองค่ะ ดังนั้น ยาต้านไวรัสจึงเหมือนกับยาที่ใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งไม่ใช่ยาชะลอความตายอย่างแน่นอน

                ความไม่สบายใจประการที่สอง คือ ทัศนคติเรื่องเรื่องเอชไอวี/เอดส์ ภาพรวมของรายการเมื่อคืนนี้ทำให้เห็นว่า เอดส์ เป็นเรื่องของคนเฉพาะกลุ่ม คือ กลุ่มเกย์ ซึ่งโดยข้อเท็จจริงคือ เอดส์ เป็นเรื่องของทุกคนที่ยังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยกับทุกคนและทุกครั้ง การนำเสนอเพื่อทำให้สังคมเห็นภาพว่าเอดส์เป็นเรื่องของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ของประเทศสูงขึ้น เพราะกลุ่มคนที่ไม่ได้มีรสนิยมทางเพศที่รักเพศเดียวกันก็จะคิดว่า “ฉันไม่เสี่ยง ไม่ต้องป้องกัน” นอกจากนี้ ตลอดการสัมภาษณ์ คุณวิทวัสใช้คำว่า “มั่ว” “สำส่อน”และเรียกผู้ติดเชื้อว่า “บุคคลอันตราย” ซึ่งคำเหล่านี้สร้างภาพเชิงลบให้คนทั่วไปรังเกียจคนที่ติดเชื้อเอชไอวี ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่มีนิยามแน่ชัดว่าพฤติกรรมแบบไหนที่เรียกว่า มั่ว หรือ สำส่อน และเอาเข้าจริงแล้ว การมั่ว/สำส่อน (ในนิยามที่คุณวิทวัสใช้) เป็นสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีหรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางกันแน่ที่ทำให้มีโอกาสเสี่ยง

                ด้วยเหตุผลสองข้อที่กล่าวมา ดิฉันจึงไม่สบายใจอย่างยิ่งที่รายการตีสิบจะเป็นสื่อที่สร้างความเข้าใจผิดเรื่องเอดส์จนทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและเห็นว่าในฐานะคนทำงานเรื่องสื่อ คุณวิทวัสและทีมงานรายการตีสิบจะต้องทำการบ้านในประเด็นเนื้อหาที่จะออกอากาศทุกครั้งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความเป็นสื่อมวลชนและผู้ชมนับล้านที่เป็นแฟนรายการของคุณ

                ดิฉันเป็นคนทำงานรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเอดส์ในสังคมไทยซึ่งครั้งหนึ่งเราเคยผลักดันประเด็นเรื่อง “เอดส์รักษาได้” เพื่อทำให้ผู้ติดเชื้อเข้าถึงการรักษา และรายการตีสิบสนใจที่จะนำเสนอเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่มีผลเลือดต่าง แต่เมื่อทางเราทราบว่าทางรายการจะเจาะเลือดโชว์ในรายการเพื่อพิสูจน์ว่าแขกรับเชิญ เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีจริง โดยที่ผู้ติดเชื้อเองก็มีผลการตรวจเลือดจากแพทย์ยืนยันว่ามีผลเลือดบวก พวกเราจึงขอยุติไม่ให้มีการบันทึกเทปรายการ เหตุการณ์นี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ดิฉันจึงแปลกใจอย่างยิ่งว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทางทีมงานไม่ได้ทำความเข้าใจประเด็นเรื่องเอดส์ให้มากขึ้นเลย ทั้งๆ ที่รายการมีการนำเสนอเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ดิฉันไม่แน่ใจว่าคนดูจะได้สาระหรือความเข้าใจผิดจากรายการตีสิบกันแน่

                ติงมาเพราะรักในฐานะที่ได้ชมรายการของคุณวิทวัสอยู่บ้าง แม้ว่าจะไม่ใช่แฟนประจำถึงขนาดนั่งหน้าจอทุกครั้งที่มีการออกอากาศ แต่มั่นใจว่าดิฉันไม่เคยพลาดสักครั้งที่รายการมีการนำเสนอเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเพศ เรื่องเอดส์ หวังว่าคุณวิทวัสและทีมงานจะตรวจสอบและมีความรับผิดชอบต่อการทำหน้าที่ในฐานะ “สื่อ” มากขึ้นกว่านี้ค่ะ

 

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               ธิติพร  ดนตรีพงษ์

                                                                                                                                เจ้าหน้าที่งานรณรงค์  มูลนิธิเข้าถึงเอดส์



ความคิดเห็นที่  11

ถ้าพูดว่ามั่ว คือหนูเป็นผู้ที่ติดเชื้อมาจากพ่อแม่คำพูดนี้คงจะใช้ไม่ได้นะค่ะเพราะหนูเกิดมาก็เป็นแล้วค่ะ

Dekkkk   (24 เมษายน 2557  เวลา 15:59:57)

ความคิดเห็นที่  10

ดูเหมือนกันและกังวล คนไข้เองก็ดูอยู่รู้สึกไม่ดีและควรรณรงค์ให้สังคมเข้าใจเอดส์มากขึ้น

ไพลิน   (12 มีนาคม 2557  เวลา 15:58:30)

ความคิดเห็นที่  9

บางคนไม่ได้มั่ว มีสามีคนเดียว สามีติดยา ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับเพื่อน เพื่อนเป็นเอดส์ สามีพลอยเป็นเอดส์ไปด้วย และนำเชื้อเอดส์มาแพร่ให้ภรรยา ภรรยาซวย พลอยติดเอดส์ไปด้วย ไม่เกี่ยวกับการมั่วเซ็กส์เลยสักนิดใช่ไหมคะ

ครูต้อย   (22 กุมภาพันธ์ 2556  เวลา 18:32:00)

ความคิดเห็นที่  8

ยังมีคนที่ไม่เข้าใจอีกเยอะมาก  ........ต้องช่วยกันให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เขาเหล่านั้น    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ความรู้ ขอบคุณ  PATH  ..

อ.เจน   (29 มิถุนายน 2555  เวลา 18:25:30)

ความคิดเห็นที่  7

การจัดรายที่มีผู้ชมทั่วประเทศ  การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้รายการมีประโยชน์มากกว่าการรับชมเพื่อบันเทิงเพียงอย่างเดียว  ถ้าไม่รู้จริงอย่าพึ่งนำเสนอ..คุณวิทวัสพลาดมาหลายครั้งแล้ว

ครูท้องถิ่น   (20 พฤษภาคม 2555  เวลา 09:48:13)

ความคิดเห็นที่  6

 ดูแล คิดตรงกัน  การที่ให้ข้อมูลผิด ออกทางสื่อ เยาวชนเราจะเข้าใจผิด  ขอให้หาตรวจเช็คข้อมูลก่อนนำเสนอ ผลกระทบต่อเยาวชนมากมาย ผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี มากขึ้น เพราะได้รับข้อมูลผิด  ๆ
ขอบคุณ และเป็นกำลังใจคะ
                                                   ครูก่อย                                          
                                             ศรีสองรักษ์วิทยา

ครูก๋อย   (12 พฤษภาคม 2555  เวลา 14:46:08)

ความคิดเห็นที่  5

ดิฉันเป็นคนนึงที่ทำงานด้านเอดส์ ถึงไม่นานนัก แต่ก็มีความเข้าใจและรับรู้ได้อย่างถูกต้องในเรื่องดังกล่าว ดิฉันมองว่าที่รายการ นำเสนอออกมานั้น ผู้ดำเนินรายการยังมีทัศนคติกับผู้ติดเชื้อ และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในด้านลบ ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์อันแท้จริงที่ต้องการนำเสนอหรือเรียกเรตติง และขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจากความคิดเห็นที่4 ถึงหมอบางท่านที่เอะอะอะไรก็ตรวจเอดส์ ขอถามย้อนกลับไปว่าแล้วตัวท่านตรวจวัดความเสี่ยงแล้วหรือยัง


                                                       อีกหนึ่งข้อคิดจากคนทำงานเอดส์ในแรงงานข้ามชาติ
                                                                                  กาญจนี  ฟูเทพ

กาญจนี  ฟูเทพ   (2 พฤษภาคม 2555  เวลา 16:54:23)

ความคิดเห็นที่  4

เป็นผื่น3-4จุดไปหาหมอ หมอให้ตรวจเอดส์ ผอมกินข้าวไม่ได้ไปหาหมอหมอให้ตรวจเอดส์ ปวดหัวไปหาหมอ หมอให้ตรวจเอดส์ สังคมการเอาตัวรอดในวงการแพทย์ หลีกหนีภาวะบางอย่าง เพื่อจะปล่อยให้ตาย โดยอ้างโรคร้ายบางอย่าง เป็นพฦษกรรม ที่เห็นอยู่ในวงการแพทย์ ครอบงำประชาชนทุกมุมโลก สร้างกระแส ขาดมนุษยธรรม บางท่านใหญ่โต เป็นที่สัการะ กราบไหว้ เทอดทูนของคนทั้งประเทศ แต่ก็ยังลงเรือ ลงหอ เป็นไปกับเขาด้วย เวรกรรม ไม่รู้เมื่อไหร่ฟ้าจะเปิดเสียที

สิทธิ์   (23 เมษายน 2555  เวลา 00:07:06)

ความคิดเห็นที่  3

ข้าพเจ้าเป็นผู้หนึ่งที่ติดเชื้อhiv การนำเสนอในรายการตี10ฟังดูแล้ว ผู้ติดเชื้อเองพยายามบอกตัวเองและสังคมว่า เขาเป็นผู้โหดร้ายมาก ฟังดูคล้ายเป็นการประนามตัวเองและสังคม มากกว่าจะพูดความจริง เอดส์ไม่ใช่สิ่งที่ใครคิดว่า ฉันไม่ติดเอดส์ ฉันคือพระเอก ฉันคือนางเอกในสังคม เคยย้อนดูความจริงมั๊ยว่า การประนาม และป้อนความโหดร้ายให้สังคม คนนั้นแหละน่ากลัวกว่าโรคไหนๆ

ปราณีต   (22 เมษายน 2555  เวลา 23:54:32)

ความคิดเห็นที่  2

ได้ชมรายการตีสิบ เช่นกัน  ความรู้สึกไม่แตกต่างจากคุณธิติพร  ดนตรีพงษ์  เจ้าหน้าที่งานรณรงค์  มูลนิธิเข้าถึงเอดส์
และ ไม่เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น  ยังมีอีกหลายเรื่องที่บางครั้งชมแล้วรู้สึก เกิดข้อคำถามมากมายขึ้นมา  จุดประสงค์ของการนำบุคคลต่าง ๆ มาพูดคุย เพื่ออะไร เคยคิดถึงผลกระทบในด้านต่าง ๆ หรือไม่     ทุกวันนี้พวกเราช่วยกันรณรงค์ คิดค้นหานวัตกรรม  วิธีการต่าง ๆ เพื่อ  เอดส์ลดแล้วลดอีก  ตามแผนฯ   เมื่อมาเจอแบบนี้  เราอาจต้องทำความเข้าใจ  อธิบายกันใหม่ ให้กับเยาวชน  ที่เราดูแลในสถานศึกษา

                                                                       P'TUM

ความคิดเห็นที่  1

ได้ดูแล้วคิดตรงกันว่าน่าจะตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องเสียก่อน เพราะเมื่อพลาดไปมากขนาดนี้เด็กๆ เยาวชนจะเข้าใจผิดไปมากขนาดไหน อัตราความเสี่ยงต่อการเป็นผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นกี่ล้านเปอร์เซ็นต์  แต่ก็ขอเป็นกำลังใจผู้ที่ทำงานด้านเอดส์ทุก ๆ ท่าน  และขอขอบคุณแทนทุก ๆ คน ที่มีคนที่มีจิตอาสาและรักเพื่อนร่วมสังคมอย่างพวกคุณ
                                                                                                          ขอบคุณและศรัทธาค่ะ

                                                                                                                   สุวสา


สุวสา แม่กาหลวง พะเยา   (30 มีนาคม 2555  เวลา 16:10:31)