Loading ...

          อาจารย์ประเสริฐ เริ่มสอนเพศศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เมื่อครั้งยังเป็นอาจารย์สอนสุขศึกษา  วันนี้ อาจารย์ก้าวสู่งานบริหาร ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียน  มีประสบการณ์การสอนเพศศึกษามานานกว่า 4ปี  เป็นประสบการณ์ตรง ที่สามารถให้คำแนะนำ และให้กำลังใจ กับอาจารย์ที่สอนเพศศึกษารุ่นต่อไปของโรงเรียนได้เป็นอย่างดี 

           ปี พ.ศ. 2551  ที่อาจารย์ทุกคนจะต้องสอนให้ได้ตามตัวชี้วัดของโรงเรียน  เพศศึกษาถูกมองว่าเป็น “ภาระ” เพราะสาระที่ต้องสอน ก็ยังสอนไม่ทัน  แต่อาจารย์ประเสริฐกลับมองว่า ไม่จำเป็นต้องสอนตามตัวชี้วัด แต่ดูที่เป้าหมายของการเรียนก่อน และเอาเนื้อหาในวิชาเพศศึกษาเข้าไปใส่ เช่น  ตัวชี้วัดความปลอดภัยในชีวิต  หรือการสร้างเสริมสุขภาพสมรรถภาพและการป้องกันโรค ก็สามารถนำเนื้อหาใน 6 ด้านของเพศศึกษา คือ การพัฒนาตามช่วงวัยของมนุษย์   การมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น  การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล   พฤติกรรมทางเพศ  สุขภาพทางเพศ   และสังคมและวัฒนธรรม  โดยดึงเนื้อหาที่จะสอนในแต่ละเรื่องให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด และตรงกับช่วงอายุของนักเรียน  และสอนตามกระบวนการเรียนรู้ คือ ทำ (do) สะท้อน (reflect) วิเคราะห์ (analyze) และ ประยุกต์ (apply)

          และจากมุมที่คนทั่วไปมักจะมองว่า เพศศึกษา คือ เรื่องการร่วมเพศ  เมื่อแรกนำเพศศึกษาเข้ามาสอนในโรงเรียน  อาจารย์ประเสริฐถูกเพื่อนครูมองว่า เป็นการชี้โพรงให้กระรอกบ้าง เป็นทาสของแพธบ้าง เพราะเอาหลักสูตรเพศศึกษาของแพธมาสอน  จนอาจารย์ประเสริฐต้องถามเพื่อนครูกลับไปว่า  กระรอกรู้จักโพรงก่อนที่จะสอนหรือเปล่า เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่จะสอนเรื่องเพศศึกษาหรือเปล่า 

          ถ้าครูสอนวิชาเลข แล้วเด็กไปซื้อของคิดเงินไม่ถูก นับเงินทอนไม่เป็น  จะโทษใคร  โทษครูสอนเลขใช่ไหม  เช่นกัน  ถ้าเด็กมีเพศสัมพันธ์แล้วติดโรค หรือท้อง แล้วจะโทษใคร  ก็ต้องโทษครูที่ไม่สอน ใช่หรือเปล่า

          อาจารย์ประเสริฐ ยกตัวอย่างตอนเป็นนักเรียน เรียนกาพย์ยานี 11 ในวิชาภาษาไทย  จนวันนี้ อายุ 49 ปีแล้ว  ไม่เคยได้ใช้ในสิ่งที่เรียน  แต่ถ้าสอนเรื่องทักษะชีวิตให้กับเด็ก  เด็กเอาไปใช้ได้จนวันตาย

          จากประสบการณ์การนำเพศศึกษาเข้าสู่โรงเรียน  อาจารย์ประเสริฐ ให้ข้อคิดว่า ครูต้องใส่ใจในการสอน ไม่ใช่สอนให้เด็กจำ แต่สอนอย่างไรให้เข้าถึงเด็ก ให้เด็กมีส่วนร่วมในการเรียนรู้  ให้เด็กตั้งคำถาม  เช่น สอนเรื่องการใส่ถุงยางอนามัย ไม่ใช่สอนว่าต้องใส่อย่างนี้ๆ เท่านั้น   แต่ต้องฟังด้วยว่า เด็กพูดถึงถุงยางอนามัยในมุมของเด็กอย่างไรบ้าง และการสอนเพศศึกษา ต้องสอนตรงๆ  ใช้คำพูดตรงๆ  ไม่ต้องเลี่ยงคำจริงๆ ที่ใช้  เช่น คำที่เรียกอวัยวะเพศ

          และ การสอนให้รู้  เด็กจะเรียนอย่างสนุก  แต่ถ้าสอนเพื่อเอาเกรด  เด็กก็จะเรียนให้ผ่านๆไป

          สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการสอนเพศศึกษา คือ เด็กกล้าพูดคุยกับครู  เริ่มจากเรื่องในวิชาเพศศึกษา ไปสู่เรื่องอื่นๆ   

          อาจารย์ประเสริฐให้มุมมองในการสอนเพศศึกษาว่า ครูต้องอดทน  ใส่ใจ  และรู้จักรอคอย  เหมือนกับการปลูกกล้วยไม้  ที่ต้องเลี้ยง ที่ต้องรดน้ำ ต้องดูแลนานกว่าจะออกดอก  แต่เมื่อออกดอกแล้ว  ดอกกล้วยไม้นั้น ก็จะสวย สมบูรณ์ อยู่ได้นาน



ความคิดเห็นที่  8

ผมคิดว่า อาจารย์ควรสอนต่อไปครับใน สาระ วิชา นี้ เพราะ เด็กอาจจะโตขึ้นแล้วมีสิชานี้ติดตัวไปสอนรุ่นลูกรุ่นหลานได้ในอนาคต ครับ

นักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย   (10 พฤษภาคม 2556  เวลา 03:29:31)

ความคิดเห็นที่  7

เห็นด้วยกับแนวคิดของคุณครูครับ เพราะประสบการณ์จริงเคยกินเคยนอนบ้านครูตั้งแต่เล็กครูจะสอนทุกๆเรื่องให้รู้และเข้าใจในชีวิตจริง ไม่แปลกใจ ที่ครูของผมจะมีลูกศิษย์ที่รักครูอย่างมากมาย ทั้งศิษย์เก่าและปัจจุบัน!..ท้ายนี้ผมขอเป็นตัวแทนศิษย์เก่าทั้งหมด บอกกับครูว่า!..ครูเป็น เหมือนพี่..เหมือนพ่อ....และเหมือน..เพื่อนสนิท!..ที่คุยได้ทุกเรื่องจริงๆครับ! และขอเป็นกำลังใจในการทำงานของครู ตลอดไปครับ!......สู้..สู้..ครับครู!

ความคิดเห็นที่  6

อยากให้ครูทุกคนเข้าใจเรื่องเพศศึกษาเหมือนท่านรองประเสริฐคะ เพื่อลูกศิษย์จะได้มีความรู้และดำรงค์ชีวิตได้ปลอดภัยในสังคม

ครูแนนะแนว   (24 มิถุนายน 2555  เวลา 16:20:05)

ความคิดเห็นที่  5

ท่านรองฯประเสริฐพูดได้ชัดมากค่ะ ขายแนวคิดนี้ไปเรื่อยๆนะคะ ถ้ามีโอกาสในเวทีประชุมผู้บริหารก็ขอโอกาสท่านได้แลกเปลี่ยนและแสดงทัศนะเรื่องทักษะชีวิตบ้าง ยิ่งประตูอาเซียนเปิดยิ่งต้องเตรียมทักษะชีวิตให้นักเรียนควบคู่กับการเตรียมสิ่งที่จะผสมเพิ่มเติมเข้ามาในวิถีชีวิตลูกหลานไทยทั้งเรื่องภาษา วัฒนธรรมไทย (ถิ่น)ที่ต้องเข้มแข็ง+ทักษะชีวิตในการเป็นพลเมืองอาเซียนด้วยค่ะ

พรภัทรา จำเริญ   (1 มิถุนายน 2555  เวลา 10:17:56)

ความคิดเห็นที่  4

ก็เห็นด้วยครับ

เด็กนักเรียน   (30 พฤษภาคม 2555  เวลา 18:37:43)

ความคิดเห็นที่  3

ดีใจมากและขอขอบคุณที่ประเทศไทยเมีครูแบบท่านห็นด้วยทุกประการค่ะ  แต่อยากให้ท่านอาจารย์ประเสร็ฐ  ต้นโนนเชียง  ย้ำในประเด็นว่าเพศศึกษาไม่ใช่เรื่องการร่วมเพศมากๆ  เพราะคนหรือครู ผู้ปกครอง จะเข้าใจผิดกันมาก

ประชิต  สุขอนันต์   (18 พฤษภาคม 2555  เวลา 11:55:24)

ความคิดเห็นที่  2

เห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะ  อยากให้ครูสอนเพศศึกษาแบบที่ท่านสอนลูกของท่าน  พูดตรงประเด็นด้วยท่าทีที่ปกติธรรมดาเหมือนพูดคุยเรื่องอื่นๆในชีวิตประจำวัน  เพราะเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์  เป้าหมายคือลูกศิษย์มีเพศสัมพันธ์อย่างฉลาด  หรือชะลอการมีเพศสัมพันธ์ก่อนถึงวัยอันควร

คนทำงานเอดส์   (17 พฤษภาคม 2555  เวลา 11:33:43)

ความคิดเห็นที่  1

ดีใจค่ะที่เห็นครูสุขศึกษา ที่เข้าใจในเรื่องนี้  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านเป็นผู้บริหาร ท่านเข้าใจในการจัดกระบวนการเรียนรู้เพศศึกษาเป็นอย่างดี   ถ้าผู้บริหารเป็นอย่างท่านทุกคนก็ดีซิคะ

ครูสุขศึกษาเช่นกัน   (17 พฤษภาคม 2555  เวลา 09:43:06)