Loading ...

ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 305 (1) (2) และมาตรา 276, 277, 282, 283 และ 284 รวมทั้งข้อบังคับแพทยสภา พ.ศ. 2548 ประเทศไทยได้กำหนดให้ผู้หญิงสามารถยุติการตั้งครรภ์โดยแพทย์อย่างถูกต้องตาม กฎหมายได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

1) การตั้งครรภ์นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพทางกายของผู้หญิง
2) การตั้งครรภ์นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพทางใจของผู้หญิง
3) ทารกในครรภ์มีความพิการรุนแรง
4) การตั้งครรภ์ที่เกิดจากการถูกข่มขืนกระทำชำเรา
5) การตั้งครรภ์ในเด็กหญิงที่อายุไม่เกิน 15 ปี (แม้ว่าเด็กหญิงจะไม่ได้ถูกล่อลวงหรือข่มขืนก็ตาม)
6) การตั้งครรภ์มาจากเหตุล่อลวง บังคับ หรือข่มขู่ เพื่อทำอนาจาร สนองความใคร่

การยุติการตั้งครรภ์ในประเทศไทยส่วนใหญ่ หากตีความตามเกณฑ์ข้างต้น ส่วนใหญ่เป็นการยุติการตั้งครรภ์ที่เข้าข่ายตามข้อกฎหมายทั้งสิ้น เพราะผู้หญิงมักประสบปัญหาที่สอดคล้องกับข้อกฎหมายข้อใดข้อหนึ่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะความทุกข์ทางใจจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อมด้วยเหตุและปัญหาต่างๆ ที่ผู้หญิงต้องประสบ

สำหรับนานาประเทศ การตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านกฎหมายของประเทศนั้นๆ โดยทั่วไป เกณฑ์ในการยุติการตั้งครรภ์มีตั้งแต่เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้หญิง เพื่อเหตุผลทางสุขภาพอันเนื่องมาจากการตั้งครรภ์นั้นส่งผลต่อสุขภาพทางกาย และใจของผู้หญิง การตั้งครรภ์อันเนื่องมาจากกรณีข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ เพศสัมพันธ์ร่วมสายเลือดเดียวกัน ปัญหาสุขภาพของตัวอ่อนในครรภ์ รวมทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม และเกณฑ์ที่เปิดกว้างมากที่สุดคือ เมื่อผู้หญิงต้องการ เกณฑ์ของประเทศต่างๆ ในโลก แสดงดังตารางต่อไปนี้


การยุติการตั้งครรภ์ทำได้ในกรณีต่อไปนี้
(จาก The world abortion laws, Center for Reproductive Rights, July 2007)
ปัญหา (1)ช่วยเหลือชีวิตผู้หญิง (2)สุขภาพทางกายผู้หญิง (3)สุขภาพทางใจผู้หญิง (4)การข่มขืน (ท้องร่วมสายเลือด) (5)ตัวอ่อนในครรภ์ (6)เศรษฐกิจและสังคม (7)เมื่อผู้หญิงต้องการ
จำนวนประเทศ ที่ใช้เกณฑ์นี้ 190 131 125 94 88 66 55
ควบคุมประชากรโลก 99% 78% 75% 72% 64% 61% 40%